<
/div>
ความสำคัญ ของโครงการซีเนี่ยร์คอมเพล็กซ์ ประชารัฐ หรือ นโยบายของรัฐ ภาคเอกชน
วันนี้เป็นวันดีนะครับเป็นวันสิ้นปีของรอบวันเกิด ของผู้เขียน และเป็นวันเริ่มต้นชีวิตใหม่ วันนี้เป็นวันดีที่ได้กำหนดแผนงานว่าจะต้องเขียนแผนธุรกิจขึ้นมาเพื่อ เสริมสร้าง ให้องค์กรมีแนวคิดต่อยอดจากความคิดของเรา และ การลงมือ ทำงานหรือการลงทุนในการทำธุรกิจ การที่เรามีแผนกำหนดเป้าหมายเอาไว้นั้นเราจะต้องมีระเบียบและวิธีการในการ จัดการในการทำงานจะต้องสร้าง โครงสร้างของธุรกิจขึ้นมา
ในการสร้างโครงสร้างธุรกิจขึ้นมานั้น เขาต้อง ใช้ความรู้ความสามารถที่เรามีอยู่ใน องค์ความรู้ของเราที่เรามีประสบการณ์การทำงานเรามีประสบการณ์ การใช้ความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ในการบริหารมีประสบการณ์ในการประกอบการในหน้าที่ตลอดจนเราได้ ดำเนินธุรกิจ ไป ดำเนินการธุรกิจตาม planning ที่เรากำหนดไว้นั้นจนสำเร็จลุล่วง แล้วเสร็จและมีกำไร เราก็ประเมินผลจากการทำงานที่ผ่านมาในประสบการณ์ เมื่อเราเห็นผลงานประสบการณ์ที่ผ่านมาของเราเองนั้น สำเร็จผลเราก็ เผยแพร่ความรู้ของเราที่มีอยู่ ให้กับ พนักงานเพื่อพัฒนาองค์กรหรือคนที่เข้ามาเรียนรู้กับเราเราจะได้เผยแพร่ให้กับลูกศิษย์ของเรา ถึงขั้นตอนนี้ก็เช่นเดียวกัน จังกับผมเองในฐานะที่เป็นผู้ที่มีความ ชำนาญเป็นผู้ทรงมนุษย์ทางด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จนเกิด Training ธุรกิจที่สั่งสมประสบการณ์มาในระยะเวลาร่วม 30 ปีที่ผ่านมา
ปัจจุบันได้เขียนโครงการ ตอบสนองนโยบายของรัฐบาลซึ่งเรียกว่าโครงการ senior complex ประชารัฐภาคเอกชนสิ่งใดประสานงานกับทางท่านอธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุท่าน ดร.สมคิดสมศรี ในอดีตจน ประสานงานกับทางกระทรวงพัฒนาสังคมเป็นโครงการประชารัฐ ในสมัย รัฐบาลของท่านประยุทธ์ ซึ่งเป็นโครงการเพื่อสังคม และผู้สูงวัย เตรียมแผนต้อนรับการอยู่อาศัยของผู้สูงวัยในการแก้ปัญหา ระดับชาติ จนทำให้ แพนนิ่งธุรกิจของผมที่เขียนขึ้นมาเป็นที่ยอมรับของ กรมกิจการผู้สูงอายุ เป็นที่ยอมรับของหน่วยงานราชการ และได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชน ทั้งสถาบันการเงิน ในประเทศไทย ในภาครัฐที่ ให้การสนับสนุนสินเชื่อโครงการ ธนาคาร ออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารกรุงไทย ธนาคาร แห่งชาติ และสถาบันการเงินต่างประเทศอีกหลายสถาบัน ที่ให้การสนับสนุนโครงการ ดร.สมัย แหมมั่น ในอดีต จนปัจจุบันนี้ ในระยะเวลาที่ การจัดทำโครงการเพื่อให้ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานราชการนโยบายของภาครัฐนั้น ใช้ระยะเวลาในการทำโครงการก็ หลายปี เขียนโครงการมาหลายปีจนสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีจน เกิดการ สนับสนุนจากหน่วยงานของภาครัฐและออกหนังสือ ให้การสนับสนุนโครงการเป็นรูปประธรรม
โดยโครงการ senior คอมเพล็กซ์ ประชารัฐภาคเอกชน ของ ดร.สมัย เหนมั่น นั้น ได้รับการสนับสนุนจากกรมกิจการผู้สูงอายุ โดยใช้นโยบายของรัฐบาล ในการจัดทำโครงการ เป็นนโยบายประชารัฐ วางแผนการอยู่อาศัย หลังวัยเกษียณของผู้สูงวัยหรือผู้ที่มีความสนใจที่จะวางแผน การอยู่อาศัยใน วัยเกษียณหลังจากการทำงาน ไปแล้ว
โครงการได้รับการอนุมัติ ในการสนับสนุนให้สนับสนุนสินเชื่อโครงการสำหรับ การดูแลผู้สูงวัย ด้วยการ ดูแลสุขภาพของผู้สูงวัยกันโรงพยาบาล การดูแลสุขภาพ สำหรับภาคเอกชนที่มีความประสงค์ จะขอสินเชื่อเพื่อทำโครงการ ซีเนี่ยร์คอมเพล็กซ์ ประชารัฐภาคเอกชน รัฐบาลก็จัดงบประมาณจัดนโยบาย ในการสนับสนุนสินเชื่อโครงการสิ่งใดของเด็กซึ่งเป็นเหตุการณ์ของรัฐ ไว้ให้บริการตามความเหมาะสมความจำเป็นของการขอสินเชื่อโครงการดังกล่าว โดยอนุมัติ ให้โครงการ ซีเนี่ยร์คอมเพล็กซ์ ประชารัฐภาคเอกชน สามารถที่จะกู้เงิน จาก ธนาคารของภาครัฐ ในการจัดทำโครงการได้เหมือนกับโครงการธุรกิจอสังหา หรือโครงการใน SME ทั่วๆไป ก็สามารถกู้ขึ้นมาเพื่อที่จะทำโครงการได้ ถือว่าเป็นนโยบายหลักที่มีความ สำคัญและเป็นหัวใจในการขอความช่วยเหลือจากสถาบันการเงินที่รัฐสนับสนุน
เรือ่งนี้ก็ถือว่าเป็นโครงการที่ส่งเสริมการลงทุน ของภาครัฐที่ส่งเสริมให้ทำธุรกิจประกอบการในส่วนที่เป็นกิจการของรัฐในภาคเอกชนบรรลุเป้าหมาย ในส่วนของโครงการ ประชารัฐภาคเอกชนของท่านดอกเตอร์ สมัย ได้พัฒนาอาการรูปแบบการจัดทำการตลอดจนแบบแปลนตลอดจนแผนนิ่งงานเพื่อ พัฒนาโครงการ ซีเนี่ยร์คอมเพล็กซ์ ประชารัฐภาคเอกชน เป็นโครงการระดับชาติ และขอความร่วมมือจากหน่วยงานของภาครัฐ ในการขอทุนเพื่อทำการตลอดจนภาคเอกชน ขอทุนเพื่อทำโครงการ ชนบทนี้ปี 2561 มีความสนใจ เข้าดูงานเข้าดู แผนธุรกิจแผนการบริหาร ของ ดร ชัยณัฎฐ์ แสงมณี ได้จัดทำสำนักงานเพื่อเป็นศูนย์ประสานงานระหว่างไทยต่างประเทศเพื่อส่งเสริมการลงทุนและก็ศูนย์สัมมนา เพื่อที่จะให้หน่วยงานราชการหน่วยงานท้องถิ่น ได้เข้าชมและรับฟังการบรรยายให้ความรู้ในการวางแผนเพื่อการอยู่อาศัยของวัยเกษียณตลอดจน ความจำเป็นในการ จะดำรงชีวิตหรือการวางแผนชีวิตในวัยเกษียณว่ามีวิธีการจัดการกับชีวิตของตนเอง ที่ดีอย่างไร ให้กัผู้สนใจและเพยแพร่ความรู้ให้กับนักศึกษา และประชาชนและข้าราชการหน่วยงานต่างๆเพื่อลดปัญหาในการ อยู่อาศัยของผู้สูงวัยในอนาคตที่จะมา ถึงและวันเวลาของแต่ละท่านได้เข้าอยู่อาศัย ในโครงการลักษณะดังกล่าวซึ่งเป็นการเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ตลอดจน เตรียมการในการก่อสร้าง โครงการเพื่อตอบสนองความต้องการของ พี่น้องประชาชนชาวไทยทุกคนที่มีความต้องการอยากจะเข้าอยู่อาศัย
โครงการ ซีเนี่ยร์คอมเพล็กซ์ ประชารัฐภาคเอกชน ซึ่งเป็นโครงการที่มีความสมบูรณ์มีความเป็นบูรณาการ ที่สามารถสัมผัสได้จริงของประชาชนคนไทยตั้งแต่ 1 คือราคาไม่แพง 2 มีองค์ประกอบครบครันสามารถที่จะฝากชีวิตในบั้นปลาย 3 ตลอดจนการดูแลสุขภาพส่งเสริมสุขภาพที่ดี 4 ตลอดจน การวางแผนที่จะอยู่ใน ชีวิตที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
สามารถที่จะ ดำรงชีวิตอยู่ได้ในโครงการ ที่มีการดูแลด้วยระบบ Smart City ตลอดจน health care ที่ทันสมัย และ เทคนิคการชะลอวัยจราจร การวางแผนด้านอาหาร ในการบริโภค สำหรับผู้สูงวัย และ ที่พักอาศัยอันเหมาะสมสามารถที่จะเข้าอยู่ได้จริงสำหรับผู้ที่มีความประสงค์ในการอยู่ อาศัยในโครงการ วันนี้ธนาคาร สถาบันการเงินจากต่างประเทศให้การสนับสนุน ด้วยการรับรองโครงการ ซึ่งเป็นสถาบันการเงินไฟแนนซ์จากประเทศอังกฤษ และ ไฟแนนซ์จากดูไบให้การรับรองวงการว่าเป็นโครงการที่มีความเหมาะสมต่อมนุษย์ กับธนาคารในประเทศไทยซึ่งเป็นสถาบันการเงิน แห่งชาติ คือสถาบันการเงินธนาคาร UOBแห่งประเทศไทย ให้การสนับสนุนโครงการเพื่อการจัดทำ startup เป็นแผงสตาร์ทอัพธุรกิจที่จะ ผลักดันให้โครงการเปิดลุล่วงไปดีๆ Step แรกพัฒนาธุรกิจโดยการสร้างโครงสร้างของธุรกิจตัวอย่างขึ้นมา แล้วก็ว่าประชาสัมพันธ์ โครงการสิริกิตให้ประชาชนชาวไทยได้รับทราบรับรู้และก็สร้างโครงการตัวอย่างขึ้นมา ด้วยงบประมาณ ระยะแรกจำนวน 200 ล้านบาท ในระยะที่ 2 เพื่อสนับสนุนโครงการในการจัดทำและบริหารการก่อสร้างโครงการ ผลักดันงบประมาณในการก่อสร้างโครงการ 1 โครงการจำนวน 500 ล้านบาท และใน งบประมาณการจัดทำโครงการเพื่อขยายโครงการออกไปในแต่ละจังหวัด ที่วางแผนเอาไว้นั้นงบประมาณ ที่เหมาะสม ในการพัฒนาโครงการ จำนวน 5,000 ล้านบาท อันนี้ ก็เป็นระยะแรกที่ สถาบันการเงินดังกล่าวให้การสนับสนุน โดยการวางแผน เพื่อที่จะรองรับ ผู้ที่มีความสนใจในโครงการ คาดว่าสามารถที่จะเข้าอยู่ภายในปี 25 68
โครงการ ซีเนี่ยร์คอมเพล็กซ์ ประชารัฐภาคเอกชน ภายในปี 2566 ปลายปีนี้ก็เป็นช่วงที่ตาเตรียมการในการพัฒนา และ สรรหา พื้นที่การจัดทำโครงการตลอดจนบุคลากรเข้าร่วม การทำ Start Up ธุรกิจ อันนี้ก็เป็นไปตามแผนที่วางไว้ของดอกเตอร์ชยณัฐแสงมณี ได้ให้ข้อมูลไว้ ในวันนี้ปี 2566 เดือน 12
เนื้อหารายงานจาก ฝ่ายประชาสัมพันธ์ โครงการ ซีเนี่ยร์คอมเพล็กซ์ ประชารัฐภาคเอกชน สำนักงาน ศูนย์ประสานงาน เขตดอนเมือง ดร.ชยณัฎฐ์ แสงมณี 30 /12/2566
วันพฤหัสบดีที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566
ความสำคัญ ของโครงการซีเนี่ยร์คอมเพล็กซ์ ประชารัฐ หรือ นโยบายของรัฐ ภาคเอกชน
2. ท่าน ศุภกร. เล็กยิ้ม Supakorn Lekyim
ที่ปรึกษาโครงการ.ฝ่ายการเงินและธนาคารสถาบันการเงิน
(นโยบายประชารัฐ ภาคเอกชน) ไทยเพิ่มสุข D - HOUSE GROUP
ประธานโครงการ 3 ท่าน ดร.ชยณัฎฐ์ แสงมณี
ศุภกร. เล็กยิ้ม Supakorn Lekyim ที่ปรึกษาโรงการ.ฝ่ายการเงินและธนาคารสถาบันการเงิน
(นโยบายประชารัฐ ภาคเอกชน) ไทยเพิ่มสุข D - HOUSE GROUP
1.ประธานกรรมการบริหารสูงสุด ท่าน สรณอัฐ สุทธาสุทธินันท์.....ที่ปรึกษาฝ้ายการเงิน.. 2.ท่าน ศุภกร. เล็กยิ้ม ประธานโครงการ 3 ท่าน ดร.ชยณัฎฐ์ แสงมณี
วันเสาร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566
ที่มาของ ซีเนี่ยร์คอมเพล็กซ์ ประชารัฐ อโรคยาศาลา เกิดมาเมื่อเกิด อาณาจักรขอม พุทธศตวรรษที่ 11 – 19 บูชาพระกฤษณะ
ที่มาของ ซีเนี่ยร์คอมเพล็กซ์ ประชารัฐ อโรคยาศาลา
เกิดมาเมื่อเกิด อาณาจักรขอม พุทธศตวรรษที่ 11 – 19 บูชาพระกฤษณะ
จากหลักฐานทางโบราณคดีทำให้ทราบว่าชนชาติขอมเริ่มรวมตัวเป็นอาณาจักรหรือรัฐ มาตั้งแต่พุทธศตวรรษที่6 โดยพัฒนามาจากเมืองท่าที่ติดต่อค้าขายกับอินเดีย มีความเจริญภายใต้พื้นฐานของอารยธรรมอินเดีย ใช้ชื่อว่า อาณาจักฟูนัน มีอาณาบริเวณครอบคลุมพื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขง (เวียดนามตอนใต้) และแม่น้ำโขงตอนใต้(กัมพูชา) จนถึงบางส่วนในบริเวณของภาคอีสานตอนใต้ของประเทศไทย โดยมีเมืองออกแก้ว (ตะวันออกเฉียงใต้ของเวียดนาม)เป็นเมืองท่าในการติดต่อค้าขาย และมีราชธานีนามว่า“วยาธปุระ” ใกล้เขาบาพนมในประเทศกัมพูชา
อาณาจักรฟูนันมีการติดต่อค้าขายกับต่างประเทศทั้งกับอินเดียและจีน หลักฐานทางโบราณคดีเกี่ยวกับอาณาจักรนี้ยังดูลางเลือนหาข้อสรุปไม่ได้แน่ชัดนัก ทราบแต่เพียงว่ากษัตริย์องค์สุดท้ายคือ รุทรวรมัน และ นับถือศาสนาพราหมณ์ที่ได้รับมาจากอินเดียเป็นหลักพุทธศตวรรษที่ 12 อาณาจักรเจนละ ซึ่งแต่เดิมเป็นรัฐหนึ่งของอาณาจักรฟูนัน มีอาณาบริเวณตั้งแต่เมืองจำปาศักดิ์-ภูเขาวัดภู และในปัจจุบันคือบริเวณทางตอนใต้ของประเทศลาว และทางภาคเหนือของประเทศเขมร และ ราชธานีของอาณาจักรเจนละคือ เมือง “เศรษฐปุระ” อาณาจักรเจนละมีพื้นฐานอารยธรรมสืบต่อมาจากอาณาจักรฟูนันรวมทั้งการนับถือศาสนาพราหมณ์ด้วย
พระเจ้าภววรมัน ปฐมกษัตริย์ของเจนละได้ยึดวยาธปุระจากรุทรวรมัน ต่อมาพระอนุชาของภววรมันคือ พระเจ้ามเหนทรวรมันที่ 1 ได้เข้ายึดฟูนันและปราบปรามได้ ทำให้อาณาจักรเจนละได้ขยายอาณาเขตออกไปอย่างกว้างขวางยิ่งกว่าเดิม ในระหว่าง พ.ศ.1170-1250 นั้นอาณาจักรขอมมีกษัตริย์ครองราชย์คือ พระเจ้าภววรมันที่ 2 พระโอรสของพระเจ้าอีศานวรมันที่ 2และ พระเจ้าชัยวรมันที่ 1 โอรสของพระเจ้าภววรมันที่ 2 ยุคนี้ได้สร้างศิลปขอมแบบไพรกเมง ขึ้นระหว่างพ.ศ.1180-1250
จนล่วงพุทธที่ 13 อาณาจักรเจนละได้ถูกกษัตริย์ชวาจากราชวงศ์ไศเลนทร์แห่งอาณาจักรชวาภาคกลางรุกราน สมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 1 นั้นอาณาจักรเจนละนั้นได้แตกแยกเป็นพวกเจนละบกคืออยู่ลุ่มน้ำศตวรรษโขงตอนใต้ และ พวกเจนละน้ำ อยู่ในดินแดนลาวตอนกลาง ส่วนของเจนละน้ำนั้นถูกชวายึดครองได้ นอกจากนี้อาณาจักรชวายังได้นำตัวรัชทายาทคือ เจ้าชายวรมันที่ 2 ไปเป็นตัวประกันที่อาณาจักรชวาอีกด้วย ซึ่งเป็นระบบที่เรียกว่าตัวจำนำเพื่อรับรองความจงรักภักดีของอาณาจักรขอม พ.ศ.1250-1350 ยุคนี้ได้มีการสร้างศิลปขอมแบบกำพงพระขึ้น อาณาจักรขอมนั้นล่มสลายมาจนถึงรัชสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 2 หรือพระเจ้าปรเมศวรพ.ศ.1345-1393 พระองค์ได้รวบรวมพวกเจนละบกและพวกเจนละน้ำเป็นอาณาจักรใหม่รวมเป็นปึกแผ่น และขนานนามใหม่ว่า เมืองกัมโพชน์ตะวันออก โดยแยกตัวมาจากอาณาจักรลโวทย หรือละโว้ หรือปัจจุบันเรียกว่า ลพบุรี ซึ่งมีกัมโพชน์อยู่แล้ว โดยรับเอาลัทธไศเลนทร์หรือ เทวราชาเข้ามาทำการสถานปนาอาณาจักรใหม่ขึ้น โดยทำการสร้างราชธานีขึ้นใหม่หลายแห่งและสร้างปราสาทหินหรือเทวาลัย เป็นการใหญ่ ซึ่งมีเหตุการณ์ย้ายราชธานีขึ้นหลายครั้ง จนกว่าจะลงตัวเป็นนครวัตนครธมในที่สุด พระเจ้าชัยวรมันที่ 2 ทรงเลือกตั้งราชธานีของเมืองกัมโพชน์ในบริเวณทางเหนือของทะเลสาบเขมร พระองค์ทรงขยายพระราชอำนาจขยายเข้าไปถึงบริเวณลุ่มแม่น้ำ บริเวณอีสานใต้ของประเทศไทยด้วย
ลัทธิเทวราชา และการก่อสร้างปราสาทขอม พระเจ้าชัยวรมันที่ 2 ทรงสถาปนาลัทธิเทวราชา คือ ยกฐานะกษัตริย์ให้เป็นเทพเจ้าหรือเทวราชา (Deva-Raja) เป็นกษัตริย์สูงสุด ลัทธิเทวราชาหรือระบบเทวราชา ต่างจากลัทธิไศวนิกายแลไวษณพนิกาย คือ ก่อนหน้านั้นกษัตริย์เป็นเพียงมนุษย์ที่นับถือเทพเจ้า แต่ลัทธิราชานั้นถือว่ากษัตริย์เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับเทพเจ้าคือเทพเจ้าแบ่งภาคลงมาจุติเป็นกษัตริย์นั่นเอง เมื่อกษัตริย์เสวยราชย์แล้วต้องกระทำ 3 สิ่ง คือ ขุดสระชลประทานหรือที่เรียกว่า บาราย นี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เขมรมีความยิ่งใหญ่ เพราะเนื่องจากเขมรก็ไม่นิยมตั้งถิ่นฐานใกล้แม่น้ำเท่าใดนัก ที่เมืองพระนครก็มีบารายขนาดใหญ่หลายบาราย เช่นบารายอินทรฏกะ มะละกอเต้นระบำ กษัตริย์ต้องสร้างศาสนสถานบนฐานเตี้ยๆ อุทิศถวายบรรพบุรุษ หรือปราสาทขอมสร้างบนฐานเตี้ยๆเพียงชั้นเดียว เช่น ปราสาทพะโค ที่พระเจ้าชัยวรมันที่ 2 สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับบรรพบุรุษของพระองค์ และยังต้องสร้างศาสนสถานบนฐานเป็นชั้น หรือปราสาทขอมแบบยกฐานเป็นชั้นสูงหลายชั้นเพื่อเป็นที่สถิตของเทพเจ้า หากเป็นศาสนาพรหมณ์ลัทธิไศวนิกายก็จะประดิษฐานศิวลึงค์ทองสัญลักษณ์แห่งองค์พระอิศวร หรือศาสนาพราหมณ์ลัทธิไวษณพนิกายก็จะประดิษฐานเทว รูปพระวิษณุ และมีความเชื่อว่าเมื่อกษัตริย์สิ้นพระชนม์วิญญาณของพระองค์จะไปเสด็จรวมกับเทพเจ้าที่ปราสาทที่พระองค์สร้างไว้นั่นเอง เช่น พระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ทรงสร้างปราสาทขอมนครวัด อุทิศถวายแด่องค์พระวิษณุ เมื่อพระองค์สิ้นพระชนม์ก็ทรงมีพระนามว่า บรมพิษณุโลก จากเหตุผล 2 ข้อหลังนี้เองที่เป็นประเพณีที่กษัตริย์เขมรทุกพระองค์จะต้องสร้างปราสาทขอมอย่างน้อยที่สุด 2 หลัง ส่วนรูปแบบของปราสาทขอมนั้น ก็พัฒนารูปแบบมาจากศาสนสถานในประเทศอินเดียที่เรียกกันว่า ศิขร เป็นศาสนสถานของศิลปะอินเดียในภาคเหนือ และ วิมาน เป็นศาสนาสถานของอินเดียภาคใต้ นอกจากนี้ก็ยังได้รับอิทธิพลของ จันฑิ ศาสนาสถานในศิลปะชวาเมื่อครั้งที่อาณาจักรเจนละตกเป็นเมืองขึ้นของอาณาจักรชวาด้วย จึงเป็นการปูพื้นฐานระบบเทวราชาให้อาณาจักรอื่นๆเอาเป็นแบบอย่าง รวมถึงสยามของเราก็รับระบบนี้มาใช้ด้วยเช่นกัน ระบบเทวราชานี้มีส่วนทำให้พราหมณ์เข้ามามีบทบาทในราชสำนัก ในฐานะผู้เชี่ยวชาญศิลปศาสตร์ต่างๆ และประกอบพิธีราชาภิเษกให้กับกษัตริย์ ด้วยเหตุนี้อาณาจักรขอมสมัยนี้จึงรุ่งเรืองด้วยการสร้างราชธานีขึ้นหลายแห่งและมีปราสาทหินที่เป็นศิลปขอมเกิดขึ้นหลายแบบ กล่าวคือ สมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 2 นั้นพระองค์ได้ทำการสร้างเมืองอินทรปุระเป็นราชธานี ขึ้นที่บริเวณใกล้เมืองกำแพงจาม สร้างเมืองหริหราลัยหรือร่อลวย เป็นราชธานี สร้างเมืองอมเรนทรปุระ เป็นราชธานี และสร้างเมืองมเหนทรบรรพต หรือพนมกุเลน เป็นราชธานี ยุคนี้ได้สร้างศิลปะขอมแบบกุเลนขึ้น
ด้วยปัจจัยทั้งหมดนี้จึงก่อให้เกิดรูปแบบงานศิลปกรรมเขมรที่เรียกกันว่า ปราสาทขอม หรือก็คือ ศาสนสถานในศาสนาพราหมณ์ ที่มีความสวยงามและคุณค่าทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีเป็นอย่างยิ่ง และเนื่องด้วยปราสาทขอมเหล่านี้สร้างด้วยวัสดุที่เป็นอิฐ ศิลาทราบ และศิลาแลง (เป็นต้น) ซึ่งเป็นถาวรวัตถุจึงทำให้มีความคงทนจนถึงในปัจจุบัน แต่ว่าปราสาทขอมก็มิได้มีเพียงในเขตของประเทศเขมรเท่านั้น ยังพบในบริเวณภาคอีสานของประเทศไทยก็มีปราสาทขอมอยู่มากมายด้วยเช่นกัน เนื่องจากในบางช่วงเวลาพระราชอำนาจของกษัตริย์ที่เมืองพระนครมีความเข้มแข็ง ทำให้อำนาจทางการเมืองของอาณาจักรกัมพูชาโบราณที่มีเหนือดินแดนประเทศไทยขยายเข้ามา ด้วยเหตุนี้ปราสาทขอมจึงถูกสร้างขึ้นในดินแดนของประเทศไทยด้วย
ระหว่างพ.ศ.1370-1420 เมื่อสิ้นรัชกาลพระเจ้าชัยวรมันที่ 2 พระโอรสได้ครองราชย์ทรงพระนามว่าพระเจ้าชัยวรมันที่ 3 หรือ พระเจ้าวิษณุโลก ครองราชย์ พ.ศ.1393-1420 พระองค์ได้กลับมาใช้เมืองหริหราลัยหรือร่อลอย เป็นราชธานี ต่อมาจนถึงรัชกาลพระเจ้าอินทรวรมันที่ 1 หรือ พระเจ้าอิศวรโลก ครองราชย์พ.ศ.1420-1432 ยุคนี้ได้สร้างศิลปขอมแบบพระโคขึ้นในพ.ศ.1420-1440 ในสมัยพระเจ้ายโศวรมันที่ 1 หรือ พระเจ้าบรมศิวโลก พระโอรสของพระเจ้าอินทรวรมันที่ 1 ซึ่งครองราชย์เป็นกษัตริย์ขอมโบราณในพ.ศ.1432-1443 นั้น พระองค์ได้สร้างเมืองยโศธรปุระหรือเมืองพระนครแห่งแรกขึ้นที่เขาพนมบาเค็ง เมื่อพ.ศ.1436 ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือทะเลสาบเมืองเสียมเรียบ เมืองนี้คนไทยเรียก เสียมราฐ การสร้างปราสาทหินขึ้นบนเขาพนมบาเค็งนั้น เป็นอิทธิพลของศาสนาพราหมณ์หรือฮินดูที่แผ่อิทธิพลเข้ามายังดินแดนแถบนี้ ซึ่งถูกสมมติขึ้นเป็นศูนย์กลางของจักรวาลตามความเชื่อนั้น นับเป็นศิลปขอมแบบบาเค็ง
เมืองยโศธรปุระ ราชธานีแห่งนี้มีกษัตริย์ครองราชย์ต่อมาคือ พระเจ้าหรรษวรมันที่ 1 หรือ พระเจ้ารุทรโลก พระโอรสของพระเจ้ายโศวรมันที่ 1 ครองราชย์ พ.ศ.1443-1456 และพระเจ้าอีศานวรมันที่ 2 หรือพระเจ้าบรมรุทรโลก พระอนุชาของพระเจ้าหรรษวรมันที่ 1 ครองราชย์ พ.ศ.1 456-1468 จึงเกิดเหตุการณ์เปลี่ยนแผ่นดิน
นที่สุดพระเจ้าชัยวรมันที่ 4 หรือพระเจ้าบรมศิวบท ซึ่งเป็นน้องเขยของพระเจ้ายโศวรมันที่ 1 ได้ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์อาณาจักรขอมในพ.ศ.1471-1485 พระองค์ได้สร้างราชธานีขึ้นที่เมืองโฉกการยกยาร์หรือเกาะแกร์ และพระเจ้าหรรษวรมันที่ 2หรือพระเจ้าพรหมโลก พระโอรสขององค์ได้ครองราชย์ต่อมาระหว่างพ.ศ.1485-1487 ยุคนี้ได้สร้างศิลปขอมแบบเกาะแกร์ พ.ศ.1465-1490
ต่อมาพระเจ้าราเชนทรวรมัน หรือพระเจ้าศิวโลก พระนัดดาของพระเจ้ายโศวรมันที่ 1 ได้ครองราชย์ในพ.ศ.1487-1511 ได้ย้ายราชธานีมาที่เมืองยโศธรปุระ หรือเมืองพระนครแห่งแรก ยุคนี้ได้สร้างศิลปขอมแบบแปรรูป พ.ศ.1490-1510 เมืองยโศธรปุระ ราชธานีเก่าแห่งนี้มีกษัตริย์ครองราชย์ต่อมาหลายพระองค์ ได้แก่ พระเจ้าชัยวรมันที่ 5 หรือพระบรมวีรโลก ซึ่งเป็นพระนัดดาของพระเจ้าราเชนทรวรมัน ครองราชย์พ.ศ.1511-1544 สมัยนี้สร้างศิลปขอมแบบบันทายศรี พ.ศ.1510-1550 ขึ้น
พระเจ้าอุทัยทิตยวรมันที่ 1 พระนัดดาของพระเจ้าชัยวรมันที่ 5 ครองราชย์พ.ศ.1544 สร้างศิลปขอมแบบคลังขึ้นพ.ศ.1510-1560
พระเจ้าชัยวีรวรมัน ครองราชย์พ.ศ.1545(สวรรคตพ.ศ.1553)
พระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 ครองราชย์ พ.ศ.1545-1593 สมัยนี้พระองค์ได้ทำการสถาปนาราชวงศ์ขึ้นใหม่ และน่าจะมีการสร้างเมืองพระนครขึ้นใหม่เป็นแห่งที่สอง เป็นยุคที่สร้างศิลปแบบปาบวนขึ้นใช้ในพ.ศ.1560-1630 เมืองพระนครแห่งที่สองนี้ ยังไม่มีรายละเอียด จึงสรุปไม่ได้ว่าอยู่ที่ใด
ในดินแดนพายัพนั้น เดิมหัวเมืองฝ่ายเหนือทั้งหมดเป็นถิ่นที่อยู่ของชนชาติลาว ครั้นเมื่อขอมมีอำนาจขยายอาณาจักรมาสู่ดินแดนพายัพ จึงตั้งเมืองละโว้ให้เจ้านครขอมคอยดูแล และพระนางจามเทวีพระธิดาของเจ้าผู้ครองเมืองละโว้ได้ขึ้นไปครองเมืองหริภุญชัย (เมืองลำพูน) ซึ่งเป็นเมืองลูกหลวงของขอมละโว้ พระธิดาเจ้าผู้ครองเมืองนี้จึงได้ปกครองพวกลาวทั้งปวงในมณฑลพายัพ เมืองหริภุญชัย (เมืองลำพูน) จึงเป็นเมืองลูกหลวงของขอมละโว้ ที่ตั้งขึ้นเพื่อใช้ดูแลดินแดนพายัพ ต่อมาได้ตั้งเมืองนครเขลางค์ (เมืองลำปาง) ขึ้นและปกครองร่วม
วันพฤหัสบดีที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2566
Star Gate reway Station
เปิด6เหตุการณ์เครื่องบินหายลึกลับสะท้านโลก
เปิด6เหตุการณ์เครื่องบินหายลึกลับสะท้านโลก
11 มีนาคม 2557
แชร์
เปิด6เหตุการณ์สูญหายของเครื่องบินที่ลึกลับในประวัติศาสตร์การบินโลก
เปิด6เหตุการณ์สูญหายของเครื่องบินที่ลึกลับในประวัติศาสตร์การบินโลก
การสูญหายของเครื่องบินสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ เที่ยวบิน เอ็มเอช 370 ได้ดึงดูความสนใจจากคนทั่วโลก ซึ่งการสูญหายของเครื่องบินลำดังกล่าว เป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่หลายคนตั้งคำถามถึงว่า เกิดอะไรขึ้นกับเครื่องบินลำดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ได้มีเหตุการณ์สุดลึกลับในโลกการบินที่เครื่องบินได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย ซึ่งนิตยสารไทม์ ได้รวบรวม 6 เหตุการณ์การสูญหายของเครื่องบินที่สุดลึกลับ ในประวัติศาสตร์การบินโลก ที่บางเรื่องราวนั้นใช้เวลาหาคำตอบอยู่หลายปี และในขณะที่บางเรื่องราวนั้นยังไม่สามารถหาคำตอบได้จนถึงทุกวันนี้
1.สายการบินแอร์ ฟรานซ์ เที่ยวบิน 447 เครื่องบินแอร์บัส เอ330 จากริโอ เดจาเนอโรของบราซิล มุ่งหน้าไปยังกรุงปารีสของฝรั่งเศส ไปตกสู่มหาสมุทรแอคแลนติกในปี 2009 โดยผู้โดยสารและลูกเรือจำนวน 228 คนเสียชีวิต ในขณะนั้นใช้เวลาถึง 5 วันในการค้นหาซากของเครื่องบิน และยังใช้เวลาอีก 3 ปี เพื่อการสืบสวนถึงสาเหตุของเหตุการณ์ครั้งนี้ ก่อนจะพบว่า มีความเป็นไปได้ที่ก้อนผลึกน้ำแข็งได้ส่งผลให้เครื่องยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ (ออโตไพลอท) ไม่ทำงาน ในขณะที่ ร่างของผู้โดยสาร 47 คนก็ยังหาไม่พบจนกระทั่งวันนี้
2.อมีเลีย เอียร์ฮาร์ท นับเป็นหนึ่งในเรื่องที่เป็นตำนานของประวัติศาสตร์การบิน เมื่ออมีเลีย เอียร์ฮาร์ท ได้สูญหายไปพร้อมกับอิเล็กตรา เครื่องบินปีกเดียวสองเครื่องยนต์ ระหว่างการสำรวจโลก เหนือมหาสมุทรแปซิฟิก เมื่อปี 1937 โดยในเหตุการณ์ดังกล่าวไม่พบแม้กระทั่งซากของเครื่องบิน แม้ว่าจะมีการทุ่มเงินหลายล้านเหรียญสหรัฐเพื่อตามหาก็ตาม ก่อนที่ในปี 1939 เอียร์ฮาร์ทจะถูกประกาศว่าเป็นบุคคลที่เสียชีวิตไปแล้ว
3.ฟลายอิ้ง ไทเกอร์ ไลน์ เที่ยวบิน 739 ในปี 1962 เที่ยวบินของกองทัพสหรัฐเดินทางออกจากเกาะกวม ไปยังฟิลิปปินส์ พร้อมด้วยผู้โดยสารมากกว่า 90 คน ทว่า เดินทางไปไม่ถึงจุดหมาย โดยที่ตัวนักบินเองก็ไม่ได้ส่งสัญญาณแจ้งเหตุร้ายใดๆ หลังจากนั้น แม้จะมีการระดมคน 1,300 คนเพื่อค้นหา ทว่าก็ไม่พบร่องรอยใดๆ ในขณะที่ ลูกเรือของเรือของประเทศลิเบอเรียรายหนึ่ง ระบุว่า ได้เห็นแสงสว่างชัดเจนบนท้องฟ้าระหว่างที่เที่ยวบินดังกล่าวกำลังบินอยู่ ทว่า คณะกรรมการการบินพลเรือนของสหรัฐระบุว่า ไม่สามารถใช้คำพูดดังกล่าวในการตัดสินว่าจะสาเหตุที่เป็นไปได้ของเหตุการณ์ดังกล่าว
4.บริติช เซาท์ อเมริกัน แอร์เวย์ส สำหรับเหตุการณ์นี้ต้องใช้เวลามากกว่า 50 ปี ในการหาร่องรอยของเที่ยวบินนี้ที่มีผู้โดยสาร 11 คน ซึ่งหายในบริเวณภูเขาแอนเดส ในปี 1947 โดยในปี 1998 นักปีนผาชาวอาร์เจนตินา 2 คน ได้ค้นพบซากชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ในปี 1998 และจากนั้น หน่วยค้นหาของกองทัพจึงได้พบซากของมนุษย์ โดยเหตุการณ์ดังกล่าว บางคนระบุว่า เครื่องบินชนเข้ากับภูเขาไฟ ทูปันกาโทของภูเขาแอนเดส ซึ่งทำให้เกิดหิมะถล่ม และตัวเครื่องบินก็ถูกฝังอยู่ใต้หิมะ
5.สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา มีการสูญหายของเครื่องบินหลายต่อหลายครั้งในพื้นที่ ‘สามเหลี่ยมยูมทูต’ ซึ่งเป็นพื้นที่ของมหาสมุทรที่อยู่ระหว่างฟลอริดา เปอร์โตริโก และเบอร์มิวดา โดยเครื่องบินของสายการบินบริติช เซาท์ อเมริกัน แอร์เวย์สได้สูญหายในพื้นที่ดังกล่าวถึง 2 ครั้ง ในปี 1948 และ 1949 ซึ่งทั้ง 2 เที่ยวบินมีผู้โดยสารมากกว่า 51 คน และยังไม่พบร่องรอยจนถึงวันนี้ ในขณะที่ ในปี 1945 เครื่องบินของอเมริกัน 5 ลำ ระหว่างกำลังบินซ้อมรบก็ได้หายเข้าไประหว่างซ้อมในพื้นที่ดังกล่าวเช่นกัน ซึ่งเครื่องบินพร้อมลูกเรือ 13 นาย ที่ทำหน้าที่ค้นหาก็ได้หายไปเช่นเดียวกัน
6.อูรุกวัย แอร์ ฟรอซ เที่ยวบินที่ 571 เที่ยวบินจากซานติอาโก้ ของชิลี พร้อมกับผู้โดยสารและลูกเรือ 45 คนได้ชนเข้ากัยภูเขาแอนเดส ในสภาวะอากาศเลวร้าย ในปี 1972 โดยมีผู้เสียชีวิต 12 ราย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ไม่ทราบว่ามีผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเวลาถึง 72 วัน โดยในช่วงเวลาขณะนั้น มี 8 รายเสียชีวิตจากการถูกหิมะถล่ม ใต้ซากของเครื่องบินที่ใช้เป็นที่หลบภัย และคนที่มีชีวิตอยู่อีก 16 คน ได้ใช้วิธีกินเนื้อคนเพื่ออยู่รอด โดยกินซากศพของผู้ที่เสียชีวิต ก่อนที่ผู้รอดชีวิตเหล่านี้จะถูกค้นพบหลังจากที่เครื่องบินตกให้หลังไปถึง 2 เดือน
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)